PRI เปิดรายได้ Q1/66 กวาด 396 ลบ. โต 132% ชี้ไตรมาส 2 จ่อร่วมทุน-M&A เสริมแกร่ง

535

นางสาวจตุพร วิไลแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI ผู้ดำเนินธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ ในเครือ บมจ.ออริจิ้น เปิดเผยว่า ไตรมาส 1 ปี 2566 (เดือนมกราคม-มีนาคม) บริษัทฯ ทำรายได้รวม 396 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 132% และกำไรสุทธิ 88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 98% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน

จากการขยายฐานธุรกิจตั้งแต่ปี 2564-2565 ผนวกกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัวจากการเปิดประเทศ นักท่องเที่ยวและนักลงทุนเดินทางสู่ประเทศไทยเพื่อท่องเที่ยวและทำธุรกิจเพิ่มมากขึ้น

ส่งผลให้บริษัทมีโครงการที่รับบริหารจัดการทั้งกลุ่มต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ เพิ่มขึ้นจาก 120 โครงการในช่วงไตรมาส 4/2565 เป็นมากกว่า 130 โครงการในช่วงสิ้นไตรมาส 1/2566

ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ให้แก่บริษัทสูงสุดในไตรมาส 1/2566 เป็นกลุ่มธุรกิจปลายน้ำ-บริการหลังการขายที่อยู่อาศัย (Living & Earning Services)

โดยมีรายได้จากกลุ่มธุรกิจดังกล่าว 225 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนอยู่ที่ 57% ของรายได้รวม และคิดเป็นอัตราการเติบโตสูงถึง 223% จากไตรมาส 1/2565

โดยเป็นรายได้ที่จากการให้บริการออกแบบและตกแต่งเพิ่มมากขึ้น ทั้งภายในพื้นที่ส่วนกลางโครงการอสังหาริมทรัพย์และภายในพื้นที่พักอาศัย รวมถึงมีรายได้ใหม่ๆ จากจำนวนลูกค้าธุรกิจบริการทำความสะอาดเพิ่มขึ้น

สำหรับกลุ่มธุรกิจกลางน้ำ – บริการการจัดการเพื่อการอยู่อาศัย (Living Services) มีรายได้อยู่ที่ 121 ล้านบาท เติบโต 59.5% เป็นผลมาจากจำนวนโครงการที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้บริษัทมีรายได้จากการให้บริการบริหารนิติบุคคลอาคารชุด หมู่บ้านจัดสรร และ Residential Property เพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน

ขณะเดียวกัน ธุรกิจบริการนายหน้าอสังหาริมทรัพย์และบริการจัดหาผู้ร่วมทุน (JV) ก็มีรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากการฟื้นตัวภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

กลุ่มธุรกิจต้นน้ำ – บริการก่อนเข้าอยู่อาศัย (Pre-Living Services) มีรายได้ 49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 101% จากช่วงเดียวกันของปี 2565 เนื่องจาก เริ่มมีรายได้จากธุรกิจบริการออกแบบสถาปัตยกรรม งานวิศวกรรมโครงสร้าง และวิศวกรรมระบบประกอบอาคาร มีฐานลูกค้าโครงการในธุรกิจที่ปรึกษาการบริการและควบคุมงานก่อสร้างเพิ่มขึ้น รวมถึงมีคอร์สฝึกอบรมใหม่ๆ ภายใต้ UPM Academy ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น

สำหรับในไตรมาส 2/2566 บริษัทยังคงเดินหน้าขยายอาณาจักร Super Living Service ต่อเนื่อง ทั้งการสร้างการเติบโตด้วยตัวเอง (Organic Growth) และการเติบโตทางลัด (Inorganic Growth) ผ่านการจับมือร่วมทุนกับพันธมิตร (Joint Venture) กับผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจนั้น ตลอดจนการพิจารณาซื้อกิจการ (M&A) เพื่อขยายขอบเขตธุรกิจบริการใหม่ ๆ ให้ครบวงจรมากขึ้น ทั้งกลุ่มต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ

ทั้งนี้ ปัจจุบัน ยังคงหาพันธมิตรที่จะเข้ามาเสริมศักยภาพในการให้บริการเกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ที่จะนำไปสู่การเป็นผู้นำในตลาดการให้บริการเกี่ยวเนื่องกับอสังหาฯ

“เราจะมีทั้งการบริการในเซ็กเมนต์ใหม่ ธุรกิจใหม่ ตลอดจนการทยอยบุกตลาดต่างจังหวัดตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2/2566 เราจึงเชื่อมั่นว่ารายได้ปี 2566 จะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ 1,300 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากปี 2565 ถึงราว 42% โดยจำนวนโครงการที่เข้าไปบริหารนิติบุคคลและโครงการที่เข้าไปบริหารงานขายรวมกันจะเป็นไปตามเป้า 150 โครงการอย่างแน่นอน”