ราคาข้าว แตะระดับสูงสุดรอบ 15 ปี หวั่นเงินเฟ้อด้านอาหารพุ่งขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
“ราคาข้าว” แตะระดับสูงสุดรอบ 15 ปี โดยข้าวขาวหัก 5% ของไทย ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานของเอเชีย เพิ่มขึ้น 2.5% จากสัปดาห์ก่อน หวั่นเงินเฟ้อด้านอาหารพุ่งขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
วันที่ 21 ธันวาคม 2566 สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาข้าว แตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี จากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น และผลกระทบของเอลนีโญจะทำให้การผลิตข้าวตึงตัวมากขึ้น
สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ระบุว่า ข้าวขาวหัก 5% ของไทย ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานของเอเชีย เพิ่มขึ้น 2.5% จากสัปดาห์ก่อนเป็น 650 ดอลลาร์ต่อตันในวันพุธ (20 ธ.ค.2566) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2551
ราคาข้าวล่าสุดพุ่งขึ้นทะลุในช่วงต้นเดือนสิงหาคม ภายหลังการควบคุมการส่งออกจากบริษัทขนส่งชั้นนำของอินเดีย และสภาพอากาศแห้งที่คุกคามการผลิตไทย หลังจากตลอดเดือนกันยายนและตุลาคมราคาข้าวได้ลดลง แต่ราคาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนพฤศจิกายน อาจทำให้อัตราเงินเฟ้อด้านอาหารสูงขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่พึ่งพาข้าว เช่น ฟิลิปปินส์
นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ยังกังวลเกี่ยวกับการเร่งอัตราเงินเฟ้อด้านอาหารก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในปี2567 กระทรวงอาหาร ระบุว่า ราคาข้าวเพิ่มขึ้นแม้จะมีข้อจำกัดในการส่งออกที่เข้มงวด การเก็บเกี่ยวที่ดี และสต๊อกข้าวของรัฐที่เพียงพอ สินค้าหลักได้เพิ่มขึ้นประมาณ 12% ต่อปีในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และทางการได้ขอให้โรงสีลดราคาขายปลีก
ด้านเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีไทย กล่าวในสัปดาห์นี้ว่า อินโดนีเซียมีแผนจะซื้อข้าวไทย 2 ล้านตันภายในสิ้นปี 2567 ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความต้องการข้าวไทยที่เข้มแข็ง นั่นเกิดขึ้นเช่นเดียวกับที่ปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งทำลายพืชผลทั่วเอเชีย คาดว่าจะลดผลผลิตข้าวไทยลดลงประมาณ 6% ในปี 2566-2567
การเพิ่มขึ้นของต้นทุนข้าวในปีนี้แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับต้นทุนหลักอื่นๆ เช่น ข้าวสาลีและข้าวโพด ราคาข้าวขาวของไทยเพิ่มขึ้น 36% ในปีที่ผ่านมา ขณะที่สัญญาข้าวสาลีล่วงหน้าในชิคาโกลดลง 20% และมีแนวโน้มลดลงครั้งแรกในรอบ 7 ปี สัญญาข้าวโพดล่วงหน้าขาดทุนประมาณ 30% ในปี 2566
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
