ไดโดมอน จากผู้บุกเบิกปิ้งย่างบุฟเฟ่ต์ในไทย สู่วันเหลือสาขาเดียว
ไดโดมอน ตำนาน 41 ปี กับลมหายใจที่รวยริน จากผู้บุกเบิกปิ้งย่างบุฟเฟต์ในไทย อดีตเคยสยายปีกเข้าตลาดหุ้น สู่การขาดทุน-เปลี่ยนมือ และวันที่เหลือเพียง 1 สาขา
หลังจาก “Daidomon” ผู้บุกเบิกร้านปิ้งย่างรูปแบบบุฟเฟ่ต์ในไทยเจ้าแรก ๆ ได้ประกาศปิดสาขาอุบลราชธานี และเหลือสาขารังสิต เป็นสาขาสุดท้ายของแบรนด์
“การเงินธนาคาร” พาย้อนชมเรื่องราวของ “ไดโดมอน” แบรนด์ปิ้งย่างตัวท็อปสู่การที่บริษัทฯ แม่ขาดทุนสะสมติดต่อหลายปี อ้างอิงผลประกอบการ 5 ปี ของ บมจ. เจซีเค ฮอทพิทอลลิตี้ หรือ JCKH ของกลุ่มเตชะอุบล เจ้าของคนปัจจุบันของไดโดมอนและฮอตพอท ดังนี้
- ปี 2562 รายได้รวม 1,397 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 158 ล้านบาท
- ปี 2563 รายได้รวม 701 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 142 ล้านบาท
- ปี 2564 รายได้รวม 443 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 340 ล้านบาท
- ปี 2565 รายได้รวม 543 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 227 ล้านบาท
- ปี 2566 รายได้รวม 397 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 108 ล้านบาท
เริ่มตำนานปิ้งย่าง รายใหญ่โผล่ร่วมทุน
สำหรับไดโดมอน ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในปี 2526 มีกลุ่มฟูคูด้าถือหุ้นใหญ่ และขยายสาขาแรก ๆ ใจกลางเมืองย่านสยามสแควร์ ก่อนจะแผ่ขยายไปยังโซนอื่น ๆ อาทิ เอกมัย งามวงศ์วาน ก่อนจะจัดตั้ง บริษัท ไดโดมอน กรุ๊ป จำกัด ขึ้นด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 3 ล้านบาท ในปี 2533
ต่อมาในปี 2536 ได้มี 3 กลุ่มทุนใหญ่เข้ามาร่วมลงทุนด้วย คือ สหพัฒนพิบูล ไมเนอร์ และ เอ็มเค และได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 120 ล้านบาท
ท้ายที่สุดในปี 2546 บริษัท ไดโดมอน กรุ๊ป จำกัด ได้แปรสภาพเข้าสู่บริษัทมหาชน เป็น บมจ. ไดโดมอน กรุ๊ป มีทุนจดทะเบียนสูง 260 ล้านบาท และมีสาขามากถึง 76 สาขา ในช่วงเวลานั้น
แต่ช่วงเวลารุ่งโรจน์อยู่ไม่นานนัก ในปี 2552-2554 บริษัทฯ เริ่มทยอยปิดสาขา จากผลการขาดทุนในปี 2551 ที่ทะลุ 1,500 ล้านบาท
เปลี่ยนมือหลายครั้ง
หลังจากนั้น Daidomon จึงถูกขายให้กับ บมจ. ฮอทพอท ยักษ์สุกี้ชาบูอีกรายในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้ทั้ง 2 ร้านเป็นแบรนด์ที่อยู่ในตลาดหุ้นทั้งคู่และมีสาขารวมกัน 153 สาขา แบ่งเป็น ฮอทพอท 135 แห่ง และไดโดมอน 18 แห่ง
ทว่าความดุเดือดของตลาดร้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็นปิ้งย่าง หรือชาบูสุกี้ เข้าสู่เรดโอเชี่ยน ทำให้ต้องถูกเปลี่ยนมืออีกครั้ง มาอยู่ภายใต้ธุรกิจของตระกูลเตชะอุบล และได้เปลี่ยนชื่อจาก บมจ.ฮอทพอท เป็น บมจ. เจซีเค ฮอทพิทอลลิตี้ หรือ JCKH
อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ยังขาดทุนต่อเนื่อง แม้จะลดต้นทุนโดยการปิดสาขาไม่ทำรายได้แบรนด์ฮอทพอท และขยายแบรนด์ร้านอาหารอื่น ๆ ในมือแทน
รวมถึงแผนการฟื้นแบรนด์ไดโดมอนขึ้นมา โดยเปลี่ยนบางสาขาของฮอทพอทมาเป็นไดโดมอน และรีเฟรชรูปแบบร้านให้เป็นปิ้งย่างสไตล์เกาหลี
ทว่าก็ยังประสบปัญหาขาดทุน โดยช่วงปี 2566 มีการปิดสาขาไดโดมอนไปถึง 5 สาขา และปัจจุบันเหลือเพียงสาขาเดียว ที่ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต
สะท้อนภาพลมหายใจอันรวยรินของตำนานไดโดมอน ที่มีอายุ 41 ปี!