นักลงทุนรายย่อยญี่ปุ่น หันเหเข้าซื้อ หุ้นอินเดีย เดือน ม.ค.พุ่งแตะ 2.37 แสนล้านเยน
นักลงทุนรายย่อยญี่ปุ่น หันเหเข้าซื้อ หุ้นอินเดีย เดือน ม.ค.พุ่งแตะ 2.37 แสนล้านเยน ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าอินเดียจะเป็นจีนรายต่อไป ในขณะที่กองทุนหุ้นญี่ปุ่นแทบไม่มีกระแสไหลเข้าสุทธิ
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นักลงทุนรายย่อยของญี่ปุ่นเข้าซื้อ หุ้นอินเดีย ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าอินเดียจะเป็นจีนรายต่อไป
สินทรัพย์รวมของกองทุนเพื่อการลงทุนที่เน้นการลงทุนในอินเดียในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 11% หรือ 2.37 แสนล้านเยน หรือราว 1.6 พันล้านดอลลาร์ ในเดือนมกราคม 2567 ตามข้อมูลที่รวบรวมโดย Bloomberg
เมื่อพิจารณาถึงการเพิ่มขึ้นของหุ้นอินเดียโดยใช้เงินเยนเมื่อเดือนที่แล้ว ตัวเลขดังกล่าวชี้ให้เห็นว่ามีกระแสไหลเข้ากองทุนหุ้นอินเดียประมาณ 140,000 ล้านเยน ในขณะที่กองทุนหุ้นญี่ปุ่นแทบไม่มีกระแสไหลเข้าสุทธิเลย
การลงทุนใน ตลาดหุ้นอินเดีย ช่วยขยายความเป็นผู้นำของประเทศในฐานะตลาดหุ้นเกิดใหม่ยอดนิยมของญี่ปุ่น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากบัญชีการลงทุนปลอดภาษีที่เริ่มต้นในปี 2567 การถือครองหุ้นของอินเดียเพิ่มขึ้นมากกว่าเศรษฐกิจกำลังพัฒนาอื่นๆ ในปีที่แล้ว ตามการวิเคราะห์ของบลูมเบิร์กเกี่ยวกับข้อมูลของรัฐบาลที่คำนึงถึงการซื้อสุทธิและราคาสินทรัพย์
Daiju Aoki ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนระดับภูมิภาคของ UBS SuMi Trust Wealth Management Co. ในโตเกียว กล่าวว่า “หุ้นอินเดียกำลังดึงดูดความสนใจเป็นธีมสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับจีน ความสนใจของลูกค้าเป็นเรื่องของอินเดียโดยรวมมากกว่าบริษัทเดี่ยวๆ”
ในทางตรงกันข้าม กระแสไหลเข้าสู่หุ้นจีนลดลงมากที่สุดในบรรดาตลาดเกิดใหม่ 14 แห่ง ซึ่งครอบคลุมโดยข้อมูลสถานะการลงทุนระหว่างประเทศของญี่ปุ่น ตัวเลขดังกล่าวรวมถึงตำแหน่งของนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย
การเปลี่ยนแปลงของเงินจากญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของโลก เกิดขึ้นเมื่อจีนต้องต่อสู้กับการล่มสลายของฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์และภาวะเงินฝืด ซึ่งเป็นปัญหาทางเศรษฐกิจที่ญี่ปุ่นต้องทนทุกข์ทรมานมานานหลายทศวรรษ
ดัชนี Nifty 50 ของอินเดียเกือบจะทรงตัวในแง่ของสกุลเงินท้องถิ่นเมื่อเดือนที่แล้ว แต่เพิ่มขึ้น 4.2% ในรูปของเงินเยน เนื่องจากค่าเงินญี่ปุ่นอ่อนค่าลง ดัชนี Shanghai Composite และดัชนี Hang Sengลดลง 3.5% และ 5.7% ตามลำดับสำหรับนักลงทุนที่ใช้เงินเยน
นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของอินเดียเมื่อเทียบเป็นรายปีจะเฉลี่ยมากกว่า 6% อย่างน้อยจนถึงไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 ในขณะที่จีนคาดว่าจะยังคงอยู่ต่ำกว่า 5% ในช่วงเวลานี้ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 17% ภายในปี 2593 เทียบกับการลดลง 7.9% ในจีน ตามรายงานของสหประชาชาติ
อ้างอิง : bloomberg.com
อ่านข่าวเพิ่มเติม :
