ยังมีความผันผวน

คาดการเคลื่อนไหวอิงไปทางลบ
แม้ดัชนีปรับลดลงเกือบ 40 จุด ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา
แต่คาดตลาดยังให้น้ำหนักต่อประเด็นในประเทศ โดยเฉพาะตัวเลขผู้ติดเชื้อ Covid-19
ที่คาดมีโอกาสเร่งตัวขึ้นช่วงปลายสัปดาห์นี้ - สัปดาห์หน้า
พร้อมแรงขายออกมาเพื่อลดความเสี่ยงในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์
อย่างไรก็ตามคาดประเด็นข้างต้นกดดันในระยะสั้น
คาดผลกระทบจำกัดในบางพื้นที่ที่มีความเสี่ยง พร้อมกับการกระจายวัคซีน
ทำให้คาดจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อฯ มีโอกาสลดลงในระยะถัดไป
คาดไม่ส่งผลต่อแผนการกลับมาเปิดประเทศ เพื่อเตรียมรับนักท่องเที่ยวในช่วง 3Q-4Q’64
นี้ ทำให้เรามองเป็นโอกาสในการเข้าสะสมหุ้นในธีมการลงทุนหลักของเราเมื่อตลาดย่อตัว
โดยเฉพาะกลุ่มที่มีโอกาสฟื้นตัวใน 2H/64 เช่น กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มส่งออก
และกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้าง เป็นต้น
พร้อมประเด็นต่างประเทศ คาด Sentiment ยังเป็นบวก
(1) เฟดเปิดเผยรายงานการประชุม (16
– 17/3/64) ส่งสัญญาณเดิม
ว่าจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไปจนกว่าจะมั่นใจว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างยั่งยืน
ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาด Covid-19
และ (2) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP โลกในปีนี้สู่ระดับ
6.0% จากเดิมที่ 5.5% และปีหน้าสู่ระดับ 4.4% จากเดิมที่ 4.2% และคาด GDP จีนในปีนี้
เติบโต 8.4% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของจีนที่คาดไม่ต่ำกว่า 6%
โดยเรายังมองเป็นปัจจัยเชิงบวกหนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยง
จากภาพรวมเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวเร็วกว่าที่ตลาดคาดไว้
รวมถึงภาพในระยะกลางที่เป็นปัจจัยหนุนทิศทางกระแสเงินทุน
คาดมีโอกาสเคลื่อนย้ายเข้าตลาดในภูมิภาค โดยเฉพาะ Emerging Market จากแนวโน้มการปรับขึ้นภาษีนิติบุคคลของสหรัฐฯ
ในอนาคตจาก 21% เป็น 28% เพื่อใช้ทดแทนงบประมาณแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่วงเงินราว
2.25 ล้านล้านดอลลาร์ ของ ปธน.โจ ไบเดน ที่คาดว่าจะสามารถผลักดันให้ผ่านสภาฯ
ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวได้ภายในเร็วๆ นี้
ธีมการลงทุน
สำหรับนักลงทุนระยะกลาง เรายังแนะนำให้ ถือ / ทยอยซื้อสะสม หุ้นในกลุ่ม
- “Clean Energy Play” (โรงไฟฟ้า) ได้แก่ GULF, GPSC และ BGRIM
- “Tourism Play ” (ท่องเที่ยว โรงแรม) ได้แก่ AOT, AWC, CENTEL และ MINT
- “High Beta Play” (อสังหาฯ) ได้แก่ AP, SPALI, SIRI และ ANAN
- “Health Care Play” (ร.พ.) ได้แก่ BCH, BDMS, WPH และ VIH
สำหรับนักลงทุนระยะสั้น แนะนำเก็งกำไรเป็นรายตัว “Selective Play”
หุ้นแนะนำวันนี้ “STGT” (ต่อเนื่องจากวานนี้) มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตต่อเนื่อง จาก 3.2 หมื่นล้านชิ้น/ปี เมื่อปี’63 เป็น 8 หมื่นล้านชิ้น/ปี ในปี’67 โดยมีคำสั่งซื้อเต็มกำลังการผลิตสำหรับถุงมือยางธรรมชาติและถุงมือยางไนไตรล์ ล่วงหน้านานถึง 13 เดือน และ 30 เดือนตามลำดับ ขณะที่ราคาน้ำยางที่สูงขึ้นในระยะสั้น คาดสามารถ Pass Through ไปยังราคาขายได้ เนื่องจากความต้องการผลิตภัณฑ์ยังแข็งแกร่ง และคาดปี’64 กำไรสุทธิมีโอกาสทำ New High คาดเติบโต 63% อยู่ที่ 23,466 ล้านบาท ประเมินราคาเป้าหมาย 55.00 บาท ขณะที่ ในระยะสั้น XD : 12/4/64 @ 2 บาท