ตลาดหุ้นเอเชียปิดร่วง วิตกเงินเฟ้อสหรัฐกระทบบริษัทค้าปลีก

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงในวันนี้ โดยยุติการปิดบวก 4 วันทำการติดต่อกัน หลังร่วงมากกว่า 2% ในช่วงสั้น ๆ เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลกระทบต่อผลกำไรของบริษัทจดทะเบียน และทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง

          สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 26,402.84 จุด ร่วงลง 508.36 จุด หรือ -1.89%

          หุ้นร่วงนำตลาดในวันนี้ได้แก่ กลุ่มขนส่งทางทะเล, กลุ่มประกัน และกลุ่มบริการ

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดร่วงลงในวันนี้ นำโดยหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่ดิ่งลงอย่างหนัก ตามทิศทางหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนวานนี้

          ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดที่ 7,064.50 จุด ลดลง 118.20 จุด หรือ -1.65% และดัชนี All Ordinaries ปิดที่ 7,303.30 จุด ลดลง 123.30 จุด หรือ -1.66%

          ดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคร่วงลงหนักสุดถึง 3.1% ตามด้วยดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและกลุ่มเทคโนโลยีที่ต่างก็ร่วงลง 2.7%

          หุ้นเวสฟาร์เมอร์ส ร่วงลง 7.8% ขณะที่หุ้นวูลเวิร์ธ ดิ่งลง 5.6%

          ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคของออสเตรเลียร่วงลงหลังจากที่หุ้นบริษัทค้าปลีกในตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงอย่างหนัก ภายหลังจากทาร์เก็ต ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยว่า กำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1/2565 ลดลงสู่ระดับ 2.19 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.07 ดอลลาร์

          ผลประกอบการของบริษัททาร์เก็ตถูกกระทบจากปัญหาห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งต้นทุนเชื้อเพลิงและค่าขนส่งที่สูงขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังต้องปรับลดราคาสินค้าเพื่อให้สามารถแข่งขันกับบรรดาคู่แข่งในตลาดได้

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดบวกในวันนี้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซ้อนซื้อ หลังตลาดเปิดร่วงลงกว่า 1.2% ตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก

          ทั้งนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,096.96 จุด เพิ่มขึ้น 10.99 จุด หรือ +0.36%

          นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์เศรษฐกิจของจีนอย่างใกล้ชิด หลังจากโกลด์แมน แซคส์ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนลงสู่ระดับ 4% ในปี 2565 ซึ่งต่ำตัวเลขเป้าหมายที่รัฐบาลจีนกำหนดไว้ที่ 5.5% หลังจากข้อมูลเดือนเม.ย.บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงอย่างหนัก เนื่องจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางธุรกิจ

          นอกจากนี้ นักลงทุนรอดูธนาคารกลางจีนแถลงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ในวันพรุ่งนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางมีมติอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ที่ระดับ 2.85% เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แม้มีข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงก็ตาม

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดร่วงลงกว่า 1% ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งเริ่มส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทค้าปลีกในสหรัฐ

          ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ปิดวันนี้ที่ 2,592.34 จุด ลดลง 33.64 จุด หรือ -1.28% โดยมีปริมาณซื้อขายปานกลางที่ราว 663 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 9.7 ล้านล้านวอน (7.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และมีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในสัดส่วน 767 ต่อ 124 ตัว

          หุ้น SK hynix ดิ่งลง 2.2%, หุ้น Hyundai Motor ร่วงลง 1.89% ส่วนหุ้น LG Energy บวก 1.34%

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดร่วงลงในวันนี้ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงกว่า 1,100 จุดในวันพุธ (18 พ.ค.) ซึ่งเป็นการทรุดตัวลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2563 เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐเริ่มส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทค้าปลีก นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่า เฟดไม่ลังเลที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดเท่าที่จำเป็นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

          ดัชนีฮั่งเส็งปิดวันนี้ที่ 20,120.68 จุด ลดลง 523.60 จุด หรือ -2.54%