ธนาคารกลางและภาครัฐฯ ออกมาตรการเศรษฐกิจ ช่วยให้การลงทุนระยะสั้นผ่อนคลาย

รายงานบทวิเคราะห์ At The Open ประจำวันที่ 20
มีนาคม
2563 โดย บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า
ตลาดหุ้นเมื่อวานนี้ SET ปรับตัวลงในช่วงแรกจากแรงกดดันของราคาน้ำมันดิบโลกปรับตัวลงอย่างแรง
แต่อย่างไรก็ดีตลาดค่อยๆ ฟื้นตัวในภาคบ่ายจากแรงซื้อในหุ้นกลุ่ม Domestic โดย
ณ สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,044.19 (-3.9 จุด) มูลค่าการซื้อขาย
6.1 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 5.9 หมื่นล้านบาท) โดยนักลงทุนต่างชาติ
ขายหุ้นไทย 3,125 ลบ. (นักลงทุนสถาบันขาย 1,264 ลบ.) ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด
Short Futures ที่ 15,710 สัญญา)
ด้านแนวโน้มตลาดหุ้นในวันนี้ จากการแพร่กระจายของ COVID-19 ที่เร่งตัวขึ้นในจีน และขยายเป็นวงกว้างออกไปทั่วโลก ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อหลากหลายอุตสาหกรรม โดย ณ ปัจจุบันพบว่ามีจ้านวนผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 230,000 ราย และผู้เสียชีวิตมากถึง 9,300 ราย และอัตราการแพร่กระจายของ COVID-19 ถือว่าเร่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประเทศแถบยุโรป เช่น อิตาลี สเปน เยอรมนี ฝรั่งเศส รวมถึง สหรัฐฯ ก็มีตัวเลขผู้ติดเชื้อ ณ ขณะนี้พุ่งสูงกว่าระดับ 1 หมื่นรายเรียบร้อยแล้ว ปัญหานี้กลายเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลกที่ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลง และหากบานปลายไปอีกอาจน้าไปสู่ภาวะถดถอยของเศรษฐกิจทั่วโลกได้ โดยสำหรับตลาดหุ้น ซึ่งถือเป็นตัวบ่งชี้ที่ดีของแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต ซึ่งแน่นอนว่าจากสถานการณ์ดังกล่าวข้างต้นก็ย่อมส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงแรงอย่างที่เห็น
โดยหุ้นไทยจากต้นปีถึงปัจจุบันปรับตัวลงมาแล้วกว่า -34%
จนลงมาซื้อขายบริเวณกรอบค่าเฉลี่ย 10 ปีย้อนหลังของ PE - 1SD
ถึง -2SD ซึ่งถือว่าตอบรับปัจจัยร้ายไปในระดับหนึ่ง
ในขณะที่ในมุมบวก คือ ธนาคารกลางทั่วโลกและภาครัฐฯ
ได้พยายามเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งการเงิน และการคลังอย่างเร่งด่วน
ถือเป็นสิ่งที่จะเข้ามาเยียวยาภาพเศรษฐกิจในระยะกลางได้ ดังนั้น ดัชนีบริเวณนี้อาจเริ่มเห็นแรงซื้อหุ้นในบางกลุ่มอุตสาหกรรม
โดยเราเชื่อว่าอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบไม่มากนักจาก COVID-19
จะมีโอกาสฟื้นตัวได้ก่อน เช่น สื่อสาร, ไฟฟ้า, อาหาร,
ค้าปลีก ในขณะที่กลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนัก เช่น ท่องเที่ยว, พลังงาน, ธนาคาร
อาจต้องรอให้การแพร่ระบาดของ COVID-19 ชะลอลงกว่านี้ก่อน
จึงค่อยๆฟื้นตามมาในช่วงถัดไป
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ วันนี้ประเมิน
SET แนวรับ 1000 แนวต้าน 1080 จุด
กลุ่มที่รับความเสี่ยงได้ต่้า และนักลงทุนเน้นคุณค่า (VI) “เป็นจังหวะทยอยสะสม
Shopping list (CPALL, AOT, ADVANC, BEM, TQM)” ส่วนกลุ่มที่รับความเสี่ยงได้สูง
: “ใช้น้้าหนักเก็งก้าไร 20% ของพอร์ตการลงทุน”
แนะนำ OSP, CPF, BAM