เมื่อตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าช่วงขาขึ้น มือใหม่อยากเทรดต้องเตรียมตัวอย่างไร

ในช่วง
2 เดือนที่ผ่านมาเป็นช่วงที่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าสู่ช่วงขาขึ้นหรือ Bull
Run หลายๆ
เพจที่ทำคอนเทนต์เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น ถึงขั้นมีการสาธิตวิธีการเทรดมั่วๆ
เพียงแค่จิ้มลงทุนในเหรียญ Altcoin (โทเค็นดิจิทัลต่างๆ
ที่ไม่ใช่เหรียญในกระแสหลัก) ที่ไม่ว่าจะจิ้มลงทุนตัวไหนล้วนได้กำไรอย่างไม่น่าเชื่อ
มองเผินๆ อาจจะเป็นเรื่องดีที่สามารถทำกำไรได้ง่ายๆในช่วงตลาดขาขึ้น
ที่เหรียญต่างๆพากันขึ้นพร้อมกันหมด
แต่ในแง่ของการลงทุนนั้นการทำแบบนี้ถือว่าต้องอาศัยดวงเป็นอย่างมากโดยเฉพาะหากเป็นการเทรดในตลาดฟิวเจอร์
ที่หากทายถูกก็อาจได้รับกำไรมากถึง 75
เท่าแต่หากทายผิดก็จะกลายเป็นเสียสินทรัพย์ในมือไป -75 เท่าเช่นกัน
ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลจะ “ง่าย”
และเป็นขาขึ้นไปตลอดหรือไม่?
แน่นอนคำตอบก็ย่อมเป็นไม่
ก็เหมือนตลาดซื้อขายสินทรัพย์ทั่วๆไปไม่ว่าจะเป็นตลาดการเงินหุ้นหรือแม้แต่ตลาดทองทุกอย่างล้วนมีขาขึ้นขาลงซึ่งล้วนแล้วแต่ปัจจัย
ขณะที่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นถือว่าเป็นตลาดน้องใหม่ที่เปิดตัวมาค่อนข้างน่าสนใจ
ภายในช่วงระยะ 10 ปีมูลค่าของเหรียญกระแสหลักเช่น
bitcoin นั้นสามารถทำมูลค่าจาก 0 ถึง 20,000 ได้
และสามารถพันผวนลดมูลค่าลงไปได้ 60 ถึง 70%ภายในวันเดียว
(ซึ่งก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว) เนื่องด้วยความที่เป็นตลาดใหม่
ดังนั้นจำนวนเงินที่หมุนเวียนอยู่ในตลาดนั้นยังถือว่าเป็นรองตลาดอื่นๆ ที่นักลงทุนต่างคุ้นเคยกันดี
(เช่น ตลาดทองคำ ตลาดค่าเงิน)
โดยราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตลอดระยะเวลา
2-3 เดือนมานี้ไม่ได้เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญแต่มีหลายสาเหตุด้วยกัน อาทิ
1.
เหตุการณ์ Bitcoin Halving รอบล่าสุด ส่งผลให้รางวัลที่ได้จากการขุดหรือการยืนยันธุรกรรมของ
bitcoin นั้นลดลงถึงครึ่งหนึ่ง
ส่งผลให้จำนวนนักขุดที่มีแรงขุดหรือทรัพยากรในมือที่สามารถแย่งชิงกันยืนยันธุรกรรมก่อนได้นั้นลดลงน้อยลงไปเนื่องจากการขุดเริ่มทำให้ไม่คุ้มทุน
และเมื่อทรัพยากรหรือผู้ที่ทำการยืนยันธุรกรรมต่างๆนั้นลดจำนวนลงสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือการยืนยันทรานแซ็กชั่นที่ช้าลงอย่างมากดังนั้นในการซื้อขายหรือถ่ายโอนเหรียญ
bitcoin ทางนักลงทุนจำเป็นต้องเพิ่มเงินค่าธุรกรรมให้แพงขึ้นเพื่อความรวดเร็วในการโอนถ่ายธุรกรรม
สิ่งนี้ส่งผลเป็นลูกโซ่โดยเฉพาะเว็บเทรดต่างๆทั่วโลกที่เป็น Global ส่วนมากแล้วจะไม่มีคู่เทรดเงินสดกับเหรียญต่างๆ แต่จะใช้เหรียญกระแสหลักในการจับคู่ซื้อหรือขายสินทรัพย์ดิจิทัล โดยส่วนมากเหรียญที่เป็นสกุลหลักในการเป็นตัวกลางซื้อขาย ได้แก่ ETH, USDT และแน่นอนเหรียญที่ได้รับความนิยมที่สุดคือ Bitcoin และเมื่อ Bitconi ที่ถือกำเนิดใหม่นั้นมีจำนวนลดลงไปถึงครึ่งหนึ่ง Bitcoin ที่หมุนเวียนอยู่ในตลาด จึงเป็นสิ่งที่ล่อตาล่อใจนักลงทุนมากรวมไปถึงด้วยค่าธรรมเนียมในการเทรดที่สูงขึ้นเหรียญ bitcoin จึงเปรียบเสมือนอีกหนึ่งแรงดึงที่จุดให้มูลค่าของเรียนเล็กๆ พุ่งสูงตามไปด้วย
2. เชื่อว่าเป็นสินทรัพย์ทางเลือกใหม่ของโลก
หลังพ้นจากวิกฤติของโรคระบาด Covid-19
ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก
มีธุรกิจมากมายล้มหายตายจากไปหรือสูญเสียมูลค่าอย่างมหาศาลจากเหตุการณ์นี้เช่น
ธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว, อสังหาริมทรัพย์ ,
ที่ดิน , ธุรกิจโรงแรมและการเดินทางต่างๆซึ่งนอกจากมูลค่าของกองทุนรวมหรือแม้กระทั่งหุ้นที่เกี่ยวกับธุรกิจเหล่านี้ล้วนสูญเสียมูลค่าและสูญเสียความเชื่อมั่นจากนักลงทุนอย่างมหาศาล
แต่ในขณะเดียวกัน ธุรกิจที่เกี่ยวกับดิจิทัลหรือโลกยุคใหม่หรือธุรกิจที่สามารถทำได้ในโลกออนไลน์กลับมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างฉุดไม่อยู่
เช่น หุ้น Zoom, Slack หรือแม้แต่แพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ต่างๆ
ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น
เนื่องจากคนกักตัวอยู่ในบ้านการเลือกซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ซึ่งเป็นช่องทางที่สะดวกสบาย
3.
สถาบันทางด้านสินทรัพย์และการเงินระดับโลกหลายแห่งหันมาให้ความสนใจและถือครองในสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้นซึ่งในขณะเดียวกันประเทศไทยเองข่าวใหญ่ที่พึ่งออกมาไม่นานก็คือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
(The Stock Exchange of Thailand) ก็เพิ่งได้มีการประกาศจับมือกับ
KTGB ในการพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับการเทรดที่จะให้บริการครอบคลุมทุกอย่างรวมไปถึงการทำ
STO ที่มีภาครัฐกำกับดูแลร่วมด้วยในอนาคตอีกด้วย
4. ข่าวการมาของ ETH 2.0 และการ HardFork ของเหรียญ BCH
และ XRP ที่กำลังจะมาถึง
สำหรับเหรียญ ETH นั้นมีประกาศมาก่อนหน้านี้ว่าจะมีการอัปเดตระบบBlockchain
ของตนเป็นเวอร์ชั่น 2.0
ซึ่งฟีเจอร์นี้จะสามารถทำให้ขอบเขต ความเร็ว
รวมไปถึงความเสถียรของเครือข่ายนั้นมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวของเหรียญ BCH และ XRP ที่จะมีการ Hard fork เกิดขึ้นหรือเรียกง่ายๆก็คือใครที่ถือเหรียญ
BCH และ XRP ไว้ในมือนั้นจะสามารถได้รับ Token ใหม่หรือเหรียญอื่นๆที่จะ Hard Fork มาได้ฟรีๆสิ่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่นักลงทุนต่างแย่งชิงซื้อเหรียญเหล่านี้มาครอบครอง
มือใหม่อยากลองทำกำไร
ควรเตรียมตัวอย่างไร
มูลค่าของตลาดที่พุ่งสูงขึ้นทำให้กำเนิดเศรษฐีใหม่มากมายล่อตาล่อใจนักเทรดหน้าใหม่
ความกลัวการตกรถหรือพลาดโอกาสในการทำกำไรเหตุผลนี้ส่งผลให้นักลงทุนมือใหม่จำนวนไม่น้อยขาดการยับยั้งชั่งใจการวางแผนการเงินที่ดีหรือแม้กระทั่งการศึกษาข้อมูลเหรียญต่างๆไป
สิ่งที่ตามมาคือการขาดทุนในตลาดอย่างมหาศาลและออกจากตลาดไปอย่างน่าเสียดาย
ทั้งนี้สิ่งที่นักลงทุนควรคำนึงถึงก่อนการเริ่มเทรดมีดังนี้
1. จัดสรรงบการเงิน
จัดสรรงบการเงินและเตรียมความพร้อมหากเกิดการสูญเสียหรือขาดทุน
2. เรียนรู้ธรรมชาติของตลาด
ทั้งนี้สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายสามารถอ่านบทความที่น่าสนใจได้ใน Bitkub
Academy
3. ศึกษาข้อมูลและรายละเอียดของตลาดแต่ละประเภททั้ง
Local, Global, Centralized Exchange, Decentralized exchange เป็นต้น
4. ศึกษาข้อมูลรายละเอียดแต่ละเหรียญก่อนการลงทุนสำหรับมือใหม่แนะนำเหรียญในกระแส
Top Ten ซึ่งแต่ละตัวก็แตกต่างกันไปแต่ละโปรเจ็กต์รวมถึงเชนของเหรียญก็ไม่เหมือนกัน
5. วางแผนการเงินและกระจายความเสี่ยง
6. ติดตามข้อมูลข่าวสารอยู่เสมอ