บอนด์ยีลด์ 10 ปี ควรอยู่ตรงไหน?

Overview
ตลาดบอนด์เผชิญแรงเทขายรุนแรง หลังยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ พุ่งขึ้นต่อเนื่อง จากความหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจและโอกาสที่เงินเฟ้ออาจเร่งตัวขึ้น...
ฤดูหนาวมาเร็วเกินคาด เมื่อกุมภาพันธ์กลายเป็นเดือนสีเลือดสำหรับตลาดดอกเบี้ยทั่วโลก ไม่เว้นแม้ตลาดที่มีการติดตั้ง Yield Curve Control สำหรับบอนด์ไทย
10ปี เดือนเดียวขึ้นมา 48bps ถือเป็นการขึ้นใน 1 เดือน
ที่แรงที่สุดในเกือบ 5 ปี ขนาดเดือนมีนาคมปีที่แล้วในช่วงวิกฤติโควิท ยังขึ้นมาแค่
39bps
ThaiBMA Total Return Index สำหรับสองเดือนแรก
annualized return ติดลบไปแล้วถึง 22% รวมถึงความผันผวนที่ดูยังไม่สงบง่ายๆ
น่าจะมีผลให้ตลาดเน้นเกมส์รับ ดังนั้น กำลังซื้อ และ Inflow จึงยังไม่ควรต้องหวัง สำหรับโฟลว์บอนด์ฝรั่งถือว่าน้อยและยังไม่เป็นปัจจัยน่าพิจารณา
ขณะที่ NDIRS น่ากลัวกว่าชัดเจน ตามภาวะเฮจฟันด์ unwind
receive position
Macro ของไทยยังไม่มีอะไรเปลี่ยน Actual
GDP ปี 2563 ออกมา -6.1% แม้ต่ำกว่าคาดแต่ไม่มีผล
เพราะตลาดมองไปข้างหน้า ซึ่งเห็นความกระท่อนกระแท่นของเรื่องการแจกจ่ายวัคซีน
หุ้นไทยและค่าเงินบาทจึงน่าจะ underperform ต่อเนื่อง
Bonds & Rates
ระยะกลาง บอนด์ไทย underperform US Treasury มาถึงจุด G+50
แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นระดับปกติ แต่ก็ยังต่ำเมื่อเทียบกับ IRS
THB ดังนั้น ยังคงยืนมุมมอง Bond จะ
underperform IRS THB
ในระยะยาว ลองใช้วิธี steepness ระหว่างยีลด์
10ปีกับดอกเบี้ยนโยบายเพื่อประเมิน valuation ดู spread
ที่ว่าขึ้นไปชันสุดในปี 2013 ที่ 200bps ถ้าใช้หลักการเดียวกัน
ยีลด์ 10ปี รอบนี้ก็อาจจะไปแตะ 2.0% ได้ (ไม่ไปเปรียบเทียบกับ post-crisis ปี 2009 ที่ขึ้นไปถึง 300bps เนื่องจากตลาดในเวลานั้นถือว่าไม่
mature เพียงพอ) ดังนั้น ยีลด์ 10ปี ที่ 1.8-2.0%
ก็ถือว่าเป็น fair level ที่น่าจะยืนระยะอยู่ได้ มี value
เพียงพอที่จะรองรับแรงกระแทกจากภาวะตลาด bear flat จากการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายได้
สำหรับผู้สนใจจะเข้ามา receive มอง value ของทั้ง
3 curves อันได้แก่ Bond, IRS และ THOR
อายุ 5 ปีวิ่งมาอยู่ใกล้ๆ กันหมดคือ 1.05-1.10 ถือว่า IRS
น่าจะ outperform เพราะ THBFIX ต่ำกว่า 0.40 ถือว่ามี carry เป็น buffer ได้ดี และเมื่อคลื่นลมสงบกว่านี้
ตลาดอาจจะกลับมามองหา front-end ที่สูงเกินไป ด้วยความเชื่อว่า การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของไทยอาจจะล่าช้ากว่าที่คาด
รวมถึงช้ากว่าในสหรัฐและหลายๆ ประเทศ
Credits
สำหรับ กลุ่ม AAA ไม่เกิน 3 ปี spread แคบลงต่อเนื่อง แต่เชื่อว่าเกิดจาก risk-free ที่วิ่งขึ้นเร็วจน YTM ตามไม่ทัน อย่างไรก็ตาม spread เวลานี้แคบลงไปอยู่ในระดับต่ำกว่าก่อนโควิทแล้ว จึงเชื่อว่า spread ในระยะยาวไม่สามารถแคบลงไปกว่านี้ได้อีกแล้ว และด้วยมุมมองว่า risk-free ก็จะไม่ต่ำกว่าอีกเช่นกัน จึงเชื่อว่า ซื้อ corporate bond เวลานี้ หวังได้แค่ carry แต่โอกาสได้ capital gain คงไม่มี