อิรัก จ่อยุติทำธุรกรรมด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐ เริ่ม 1 ม.ค.67 ป้องกันการใช้ผิดกฎหมาย-เลี่ยงคว่ำบาตร
เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2566 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางอิรักระดับสูง กล่าวว่า อิรัก ประกาศห้ามการถอนเงินสดและการทำธุรกรรมในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป นับเป็นการผลักดันครั้งล่าสุดเพื่อลดการใช้เงินสำรองในทางที่ผิดซึ่งอาจก่อให้เกิดอาชญากรรมทางการเงิน และการหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรของสหรัฐต่ออิหร่าน
Mazen Ahmed ผู้อำนวยการทั่วไปด้านการลงทุนและการส่งเงินที่ธนาคารกลางอิรัก (CBI) กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อกำจัดการใช้อย่างผิดกฎหมายประมาณ 50% ของมูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ที่อิรักนำเข้าเงินสดจากธนาคารกลางนิวยอร์กในแต่ละปี
นอกจากนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันในวงกว้างในการลดค่าเงินดอลลาร์ให้กับเศรษฐกิจที่เห็นว่าดอลลาร์ได้รับความนิยมมากกว่าธนบัตรในท้องถิ่น โดยประชากรที่เบื่อหน่ายกับสงครามและวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลังจากการรุกรานของสหรัฐในปี 2546
ผู้ที่ฝากเงินดอลลาร์เข้าธนาคารก่อนสิ้นปี 2566 จะยังคงสามารถถอนเงินเป็นดอลลาร์ได้ในปี 2567 แต่ดอลลาร์ที่ฝากในปี 2567 สามารถถอนออกได้ในสกุลเงินท้องถิ่นเท่านั้นในอัตราอย่างเป็นทางการ 1,320 ดีนาร์อิรัก อัตราตลาดคู่ขนานของดีนาร์อิรักอยู่ที่ 1,560 ในวันพฤหัสบดี (5 ต.ค.) ซึ่งต่ำกว่าอัตราอย่างเป็นทางการประมาณ 15%
อิรักได้จัดตั้งเวทีเพื่อควบคุมการโอนเงินซึ่งประกอบเป็นความต้องการเงินดอลลาร์จำนวนมาก และเคยเป็นแหล่งรวมใบเสร็จรับเงินปลอมและธุรกรรมฉ้อโกงที่โอนเงินดอลลาร์ไปยังอิหร่านและซีเรีย ซึ่งทั้งสองประเทศอยู่ภายใต้การคว่ำบาตรของสหรัฐ
อาเหม็ดกล่าวว่า ระบบดังกล่าวก่อตั้งขึ้นร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีทุนสำรองจากการขายน้ำมันของอิรักจำนวน 120,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งขณะนี้เกือบจะสุญญากาศแล้ว โดยให้เงินดอลลาร์ในอัตราอย่างเป็นทางการแก่ผู้ที่มีส่วนร่วมในการค้าที่ถูกกฎหมาย เช่น การนำเข้าอาหารและ เครื่องอุปโภคบริโภค
ในเวลาเดียวกัน รัฐบาลชุดปัจจุบันซึ่งได้รับการสนับสนุนจากพรรคการเมืองที่ทรงอำนาจและกลุ่มติดอาวุธใกล้กับอิหร่าน ได้ระมัดระวังที่จะไม่ทำให้เตหะรานแปลกแยก หรือสร้างความไม่พอใจแก่ฝ่ายต่างๆ และกลุ่มติดอาวุธที่มีความสนใจอย่างลึกซึ้งต่อเศรษฐกิจนอกระบบระดับสูงของอิรัก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
