ศาลอาญา ยกฟ้อง Zipmex – เอกลาภ คดีฉ้อโกงประชาชน ผู้เสียหายเตรียมสู้ต่อ

624
zipmex

ศาลอาญา ยกฟ้องคดี ปมุข ศิริอังกุล ยื่นฟ้อง Zipmex – เอกลาภ ยิ้มวิไล คดียักยอกฉ้อโกง และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ด้านกลุ่มผู้เสียหายเดินหน้าฟ้องต่อแบบ class action

จากกรณีที่ ตัวแทน “กลุ่มร่วมสู้Zipmex” ซึ่งประกอบด้วยประชาชนนักลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลกว่า 400 ราย เสียหายรวมกันกว่า 1,400 ล้านบาท ร่วมฟังคำพิพากษาที่มีผู้เสียหายคือ นายปมุข ศิริอังกุล ยื่นฟ้อง บริษัท ซิปเม็กซ์ จํากัด และ นายเอกลาภ ยิ้มวิไล อดีตกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด เป็นจำเลยในคดีอาญาฐานร่วมกันยักยอกฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ในกรณีปัญหาการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลกับ ซิปเม็กซ์ ซึ่งส่งกระทบต่อลูกค้าผู้ลงทุนหลายหมื่นราย ในวันอังคารที่ 2 กรกฎาคม 2567 เวลา 8:30 น. ณ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก

โดยผลการพิจารณาคดีระบุว่า ศาลได้สั่ง ยกฟ้องจำเลยที่ 1 คือ บริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด และจำเลยที่ 2 คือ นายเอกลาภ ยิ้มวิไล เนื่องจากพยานหลักฐานที่โจทก์คือ นายปมุข ศิริอังกุล ยื่นฟ้องในคดีอาญาฐานร่วมกันยักยอกฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จนั้นยังไม่หนักแน่นเพียงพอในการเอาผิดจำเลย

zipmex

นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ ที่ปรึกษาสำนักกฎหมาย VLA ผู้รับมอบอำนาจผู้เสียหายกลุ่มร่วมสู้ Zipmex เปิดเผยว่า การรวมตัวของประชาชนผู้เสียหายครั้งนี้ เป็นการรวมตัวกันเพื่อให้กำลังใจ นายปมุข ศิริอังกุล ซึ่งเป็นผู้เสียหายจาดที่ได้ทำการยื่นฟ้อง ซิปเม็กซ์ และนายเอกลาภ ตั้งแต่ปี 2565 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าศาลชี้ว่า ซิปเม็กซ์ และ นายเอกลาภ ยังไม่มีความผิดในการนำข้อมูลอันเป็นเท็จขึ้นสู่ระบบคอมพิวเตอร์หรือฐานยักยอกฉ้อโกงประชาชนในปัจจุบัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจำเลยทั้ง 2 รายจะไม่มีความผิดในอนาคต เพราะหากในชั้นศาลอุทธรณ์ ทางฝั่งประชาชนมีการรวบรวมหลักฐานที่ชัดเจนเพียงพอแล้วจำเลยก็อาจถูกพิพากษาว่ามีความผิดได้เช่นกัน

โดย กลุ่มร่วมสู้Zipmex ยังคงเดินหน้ารวบรวมพยานหลักฐานต่อไป แต่ต้องยอมรับว่า โจทก์ หรือ นายปมุข นั้นได้ยื่นฟ้องคดีนี้ตั้งแต่ปี 2565 หรือ 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้นพยานหลักฐานยังน้อยมาก แม้แต่สำนักงาน ก.ล.ต. ก็ยังเจอหลักฐานไม่ครบ

แต่ปัจจุบันทั้งทางฝั่งสำนักงาน ก.ล.ต. และเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นพบพยานหลักฐานว่าจำเลยมีการกระทำความผิดมากกว่าที่หลายคนเข้าใจ ทำให้ฝั่งประชาชนยังไม่เสียกำลังใจ และเดินหน้ารวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมทั้งหลักฐานในและนอกประเทศอย่างต่อเนื่อง

นายวีรพัฒน์กล่าวต่อว่า แม้ว่าวันนี้ศาลจะตัดสินยกฟ้องจำเลย แต่ กลุ่มร่วมสู้Zipmex จะน้อมรับฟังคำพิพากษา และจะเดินหน้าใช้สิทธิ์ของประชาชนในการเดินหน้าสู้คดีต่ออย่างเต็มที่ เพราะมีผู้เสียหายหลายรายที่เสียหายจากการเชื่อคำลวงที่จำเลยกล่าวอ้าง โดยจะรวบรวมหลักฐานที่ปรากฏมาตั้งแต่ช่วงปี 2566-2567 เพื่อเข้าสู่กระบวนการชั้นศาลในลำดับถัดไป

“ต่อจากนี้ไปจะเป็นการดำเนินการที่กลุ่มผู้เสียหายร่วมกันรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการฟ้องจำเลยทั้ง 2 ทั้งคดีทางแพ่งและคดีอาญาต่อไป โดยจะมีการประสานงานด้านข้อมูลกับภาครัฐในด้านของข้อมูลต่างๆ และเพื่อผลักดันให้คดีนี้กลายเป็นคดีอาญาแผ่นดินต่อไป”

zipmex

นายกิจจา ตัวแทนของ กลุ่มร่วมสู้Zipmex ได้ยืนยันว่าผลการตัดสินครั้งนี้ไม่บั่นทอนกำลังใจของผู้เสียหายทุกคนอย่างแน่นอน เพราะเชื่อว่าศาลยังไม่ได้รับข้อมูลอย่างครบถ้วน ซึ่งในกระบวนการต่อจากนี้จะมีหลักฐานใหม่เพื่อให้ชั้นศาลรับพิจารณาตามมา ในลักษณะของการพิจารณาคดีผู้บริโภคแบบกลุ่ม (consumer class action)

โดยปัจจุบันทาง กลุ่มร่วมสู้Zipmex ก็ไม่เคยนิ่งนอนใจ ได้มีการประสานงาน สำนักงาน ก.ล.ต. และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้เกิดการดำเนินคดีอาญาแผ่นดินโดยภาครัฐไปพร้อมกัน

อีกทั้งได้มีการยื่นเรื่องต่อ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และได้มีการส่งเรื่องต่อไปยัง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เพื่อพิจารณาเป็นคดีพิเศษในลำดับถัดไป เพื่อเรียกค่าเสียหายจากผู้เกี่ยวข้องในศาลไทย และทางกลุ่มได้ว่าจ้างนักกฎหมายในต่างประเทศ เพื่อศึกษาช่องทางการเอาผิดกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในต่างประเทศไปพร้อมกันด้วย

“ทุกคนในกลุ่มได้รับความเสียหายเพราะหลงเชื่อคำลวงจากจำเลย ต้องเสียเวลา เกิดความยากลำบากในการใช้ชีวิต ต้องเสียทรัพย์สินในการจัดหาทนายและผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายเข้ามาดูแล จึงอยากวอนให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเร่งดำเนินการให้ถึงที่สุดด้วยความรวดเร็ว ในการช่วยเหลือ เยียวยาผู้เสียหายทุกคนด้วยความเป็นธรรม”

.

📌 อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องกับ Zipmex ทั้งหมด ได้ที่นี่ 📌