Amer Sports บริษัทผู้ผลิตไม้เทนนิส Wilson ยื่นเสนอขาย IPO ในสหรัฐ

376

“Amer Sports” บริษัทผู้ผลิตไม้เทนนิส Wilson ยื่นเสนอขาย IPO ในสหรัฐ พร้อมเปิดเผยรายได้ที่เพิ่มขึ้น 30% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566

วันที่ 4 มกราคม 2566 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า Amer Sports ผู้ผลิตไม้เทนนิส Wilson ยื่นเอกสารต่อตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ขณะที่คาดว่าจะเป็นช่วงเวลาที่สดใสในปี 2567 เนื่องจากตลาดหุ้นใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ขณะเดียวกันAmer Sports เปิดเผยรายได้ที่เพิ่มขึ้น 30% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566

แมทธิว เคนเนดี้ นักยุทธศาสตร์อาวุโสของบริษัทวิจัย IPO เรอเนซองส์ แคปิตอล กล่าวว่า “เราคาดว่าปี 2567 จะดูเหมือนเป็นปีปกติ อาจรู้สึกเหมือนมีการเสนอขายหุ้น IPO มากมาย”

ทั้งนี้บริษัทโซเชียลมีเดีย Reddit, บริษัทรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ Rubrik และสตาร์ทอัพด้านซอฟต์แวร์ ServiceTitan ก็คาดว่าจะเข้าตลาดในปี 2567 เช่นกัน เนื่องจากความกลัวว่าเศรษฐกิจจะถดถอยลงและความเชื่อมั่นของนักลงทุนเริ่มฟื้นตัว

ทั้งนี้Amer Sports ก่อตั้งขึ้นในปี 1950 โดยดำเนินธุรกิจใน 3 ส่วน และเป็นเจ้าของของแบรนด์กีฬาและกิจกรรมกลางแจ้งอันโดดเด่น เช่น Arc’teryx, Salomon, Atomic และ Peak Performance รวมถึงแบรนด์ Wilson ที่โด่งดังระดับโลกมีความเกี่ยวข้องกับนักกีฬาในตำนานหลายคน รวมถึง Roger Federer, Russell Wilson และ Jamal Murray ไม้เทนนิส Wilson ถูกใช้โดยผู้ชนะการแข่งขัน Grand Slam 643 คน

Michael Ashley Schulman ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Running Point Capital Advisors กล่าวว่า “กลยุทธ์นี้เป็นบทบาท 2 ประการระหว่างแบรนด์หรูและแบรนด์กีฬาระดับไฮเอนด์ ซึ่งนักลงทุนอาจพบว่าน่าดึงดูด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่ผู้คนยังคงกระหายและใช้จ่ายไปกับการเดินทางและวันหยุดพักผ่อนเชิงประสบการณ์”

“นักลงทุนอาจมองว่ากีฬาของ Amer เป็นทางเลือกหรือความหลากหลายให้กับแบรนด์อย่าง Nike และ Adidas”

Wilson ยังเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการสำหรับลีกกีฬาอาชีพหลายลีก รวมถึงสมาคมบาสเกตบอลแห่งชาติ และลีกฟุตบอลแห่งชาติ รวมถึงยูเอสโอเพ่น และโรลันด์-การ์รอส แกรนด์สแลม เทนนิส แชมเปียนชิปส์

รายรับของAmer Sports อยู่ที่ 3.05 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน เทียบกับ 2.35 พันล้านดอลลาร์ในปีก่อนหน้า EBITDA ที่ปรับปรุงแล้วหรือกำไรหลักเพิ่มขึ้นเป็น 422.1 ล้านดอลลาร์ เทียบกับ 261.8 ล้านดอลลาร์

อ้างอิง : https://www.reuters.com/markets/deals/