TikTok วางยุทธศาสตร์ 2024 แจ้งเกิด Creative economy

373

“TikTok” วางวิชั่น 2024 ก้าวสู่ยุค “Creative economy” ชูกลยุทธ์ “TikTok For All” ดันธุรกิจไทยเปลี่ยนผ่านสู่ Content riven commerce รับอุตสาหกรรมครีเอทีฟไทยมูลค่า 1.1 ล้านล้านบาทโตฉลุย

ในปี 2564 อุตสาหกรรมครีเอทีฟของประเทศไทยมีมูลค่าราวๆ 1.1 ล้านล้านบาท คิดเป็น 6.81% ของ GDP ของประเทศ โดยในปี 2565 จำนวนบุคลากรที่มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมนี้เพิ่มขึ้นถึง 963,549 คน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมครีเอทีฟที่มีส่วนทำให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโต

นางสาวชนิดา คล้ายพันธ์ Head of Public Policy TikTok – Thailand เปิดเผยว่า ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2023 TikTok ได้ประกาศแผนการลงทุนมากกว่า 400 ล้านบาทใน Southeast Asia ผ่านกลยุทธ์ 3 Smart ได้แก่

  • Smart Economic
  • Smart Environment
  • Smart People

ปัจจุบันใน South East Asia มีผู้ใช้งาน TikTok มากกว่า 325 ล้านคน มีธุรกิจบนแพลตฟอร์มมากกว่า 15 ล้านธุรกิจ นอกจากนี้ยังเทรนนิ่งและนำ SME มากกว่า 150 รายขึ้นออนบอร์ดบนแพลตฟอร์มเป็นการมูฟจากออฟไลน์มาสู่ออนไลน์เพื่อทำให้สินค้าและบริการเข้าถึงง่ายผ่าน “Shop Entertainment platform” รวมทั้งมีการเทรนนิ่ง OTOP กว่า 532 รายขึ้นมาไลฟ์บนแพลตฟอร์มซึ่งมีคนดูบน TikTok มากกว่า 121 ล้านวิวสร้างรายได้มากกว่า 8.5 ล้านบาท และมีครีเอเตอร์มากกว่า 36% ที่สร้างรายได้บนTikTok ได้มากกว่าค่าแรงขั้นต่ำ

ด้านนาย พิสุทธิ์ โรจน์เลิศจรรยา, Head of Operations – Thailand เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน TikTok มีผู้ใช้งานราวๆ325 ล้าน User ในSoutheast Asia ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาหลายปีทั้งฝั่งของผู้ใช้งานและCreator

เป้าหมายของ TikTok ปัจจุบันคือก้าวเข้าสู่ยุค Creative economy ผ่านการสร้าง Content รูปแบบใหม่ๆที่ช่วยให้ธุรกิจนั้นเติบโตและก้าวไปสู่ Content riven commerce หรือ e-commerce

“ในปี 2024 นี้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นใน Tiktok จะเน้นใน 4 มิติคือ

  1. Trending Content ยังคงโฟกัสคอนเทนต์ที่มีความ Positive joy Full และยังอยู่ใน Top trending category เช่นคอนเทนต์ที่สนุกสนาน,inspired,creator หน้าใหม่และสุดท้ายคือ tiktok จะเป็นจุดนำเทรนด์มากขึ้นเรื่อยๆ เข่นเทรนด์ของหนัง ซีรีส์ รายการทีวี เพลงต่างๆเกิดขึ้นบน tiktok มากยิ่งขึ้น Content ท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น การสนับสนุนวงการแฟชั่น Contentให้ความรู้หรือหนังสือจะอยู่กับเราไปอีกยาวๆ,ความหลากหลายของกีฬาและสุดท้ายคือ community ของ Gaming ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  2. เราจะมีโปรแกรมที่ช่วยสนับสนุน Creator ทั้งในรูปแบบของ Creator House หรือ ในรูปแบบ creator Program
  3. เราจะส่งมอบโอกาสในระดับ Global โดยเฉพาะเกาหลีและญี่ปุ่นเพราะ Content ของเกาหลีและญี่ปุ่นมีอิทธิพลต่อผู้ชมที่อยู่ใน Southeast Asia อย่างมาก
  4. เนื้อหาที่มีความยาวมากกว่า 1 นาทีจะได้รับการตอบสนองมากขึ้น และ next Level partnership จะได้พบกับฮับในการ support publisher ในหลากหลาย Industry และมิติสุดท้ายปีนี้จะเป็นปีที่เราโฟกัสคำว่า Real World Opportunity ให้กับ creator มากยิ่งขึ้นเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับ creator คนไทยและนำไปสู่คำว่า creative economy ให้ได้”