ศุภาลัย ลงทุนออสเตรเลียครบ 10 ปี กวาดยอดขาย 2 หมื่นลบ. เล็งลุยต่ออสังหา ตปท.

622

ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า 10 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ เริ่มลงทุนต่างประเทศ เพื่อเพิ่มศักยภาพการเติบโต และกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ จึงหันมาพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ อาทิ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย โดยเฉพาะออสเตรเลีย

เนื่องจาก ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ มีสภาพเศรษฐกิจและการเมืองที่มั่นคง มีทรัพยากรธรรมชาติมาก ผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูง ประกอบกับมีชาวต่างชาติอพยพเข้าประเทศเพิ่ม จึงมีความต้องการที่อยู่อาศัยของประชาชนต่อเนื่อง ค่าเงินมีความผันผวนน้อย

โดยในปี 2557 บริษัทฯ เริ่มเข้าไปพัฒนาโครงการ จนถึงปัจจุบันครบรอบ 10 ปีของการลงทุนในประเทศออสเตรเลีย รวมลงทุนไป 12 โครงการ ใน 4 เมือง คือ

  • เมือง Melbourne รัฐ Victoria
  • เมือง Geelong รัฐ Victoria
  • เมือง Brisbane รัฐ Queensland
  • เมือง Perth รัฐ Western Australia

โดยเริ่มจากเงินลงทุนในส่วนของผู้ถือหุ้น 10 ล้านเหรียญ หรือ 234 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นกว่า 41 เท่าเป็น 415 ล้านเหรียญในปัจจุบัน หรือประมาณ 10,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ศุภาลัย สามารถสร้างยอดขายรวมจาก 12 โครงการ ตามสัดส่วนการถือหุ้นของศุภาลัย เป็นมูลค่า 894 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือเทียบเท่า 20,962 ล้านบาท

โดยปี 2565 มียอดโอนกรรมสิทธิ์สูงถึง 121 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือเทียบเท่า 2,827 ล้านบาท

ผ่านการร่วมมือกับพันธมิตร โดยมี Gersh Investment Partners Limited เป็นที่ปรึกษาการลงทุนของศุภาลัยในประเทศออสเตรเลีย อีกทั้งการผนึกกำลังร่วมลงทุนและบริหารงานกับ 6 หุ้นส่วนทางธุรกิจ ได้แก่

  1. Satterley Property Group เป็นบริษัทพัฒนาที่ดินเอกชนรายใหญ่ที่สุด
  2. Peet Limited เป็นบริษัทจดทะเบียนอสังหาฯ ที่เก่าแก่ที่สุด
  3. ICD Property มีโครงการใหญ่ ทำเลดี ที่สภาพแวดล้อมสวยงาม
  4. Stockland Corporation Limited เป็นบริษัทจดทะเบียนที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย
  5. Mirvac Group เป็นบริษัทจดทะเบียนที่มี Market Cap อันดับ 2
  6. Element Five (Aust) Pty Ltd ที่เชี่ยวชาญการก่อสร้าง

อย่างไรตาม ปัจจุบันสถานะทางการเงินของ บมจ.ศุภาลัย ยิ่งมีความเข้มแข็งมากกว่าเดิม จึงสามารถที่จะขยายการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศได้เพิ่มอีกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามเจตนาในการเพิ่มศักยภาพการเติบโต

ขณะเดียวกันเป็นการกระจายความเสี่ยงไปในตัว ทั้งนี้ เพื่อให้ บมจ.ศุภาลัย มีการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีความเสี่ยงทางธุรกิจ การเงิน และมีความผันผวนของผลประกอบการน้อยที่สุด